ใครแก้มตอบฟังทางนี้… การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบช่วยคุณได้

ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

เคยกันไหม? เวลาที่ส่องกระจกดูแล้วพบว่า แก้มเราดูตอบลง ไม่อวบอิ่ม ไม่เต่งตึงเหมือนตอนเป็นเด็กวัยรุ่น แล้วยิ่งส่งผลให้ดูหน้าโทรม ไม่สดใส ทำให้ขาดความมั่นใจไปเป็นกอง ได้แต่นั่งคิดหาวิธีการรักษาแก้มตอบ เช่น การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบจะช่วยได้ไหมนะ วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักวิธีการรักษาหน้าตอบ แก้มตอบ ข้อดี ข้อเสียในการรักษา รวมไปทั้งสาเหตุที่ทำให้เกิดแก้มตอบกันค่ะ

เริ่มจาก การแก้มตอบนั้นเป็นปัญหาและจุดบกพร่องของใครหลาย ๆ คน แก้มตอบจะมีลักษณะการยุบตัวของแก้มเหมือนมีแอ่งอยู่บนใบหน้า นอกจากจะทำให้รูปหน้าขาดความสมดุล ไม่ได้สัดส่วนแล้ว ยังทำให้หน้าดูโทรมไม่สดใส และแก่กว่าวัยจนทำให้รู้สึกขาดความมั่นใจได้

รู้ทันสาเหตุ ก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

  1. อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดการสูญเสียคอลลาเจนและไขมันที่ช่วยพยุงใบหน้าไว้ บริเวณแก้มที่เคยมีเนื้อก็จะซูบลง ทำให้แก้มตอบ ถ้าในรายที่มีปัญหาค่อนข้างหนักก็จะเห็นเป็นแอ่งยุบลงไป
  2. การดัดฟันจัดฟันหรือถอนฟัน เมื่อฟันถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง เนื้อบริเวณริมฝีปากจะยุบตามตำแหน่งของฟัน ทำให้ส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า เช่น โหนกแก้มดูเด่นขึ้น หน้าตอบลง
  3. การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วเกินไปทำให้สูญเสียไขมันตามจุดต่างๆ ในร่างกายรวมถึงใบหน้า จะเห็นได้ชัดเจนว่าใบหน้าซูบ แก้มตอบลงมาก
  4. การฉีดโบท็อกลดกรามให้เล็กลงแล้วทำให้แก้มตอบ อาจเกิดได้จากการฉีดในปริมาณที่มากเกินไปไม่เหมาะสมทำให้กล้ามเนื้อกรามเล็กลงเกินไป ส่งผลให้แก้มตอบลงด้วย แต่ก็สามารถแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เพื่อช่วยเติมเต็มได้เช่นกัน

สำหรับการแก้ไขปัญหาแก้มตอบทำได้หลายวิธี เช่น การฉีดไขมันหน้า หรือการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเลือกของเราค่ะ

เราจะเลือกการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ หรือการฉีดไขมันหน้า เรามาดูข้อแตกต่างระหว่างทั้ง 2 วิธีนี้กันก่อนแล้วค่อยตัดสินใจดีกว่าค่ะ

ใครแก้มตอบฟังทางนี้_การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เป็นการฉีดสารไฮยาลูโรนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid ) หรือ HA เป็นสารสังเคราะห์ขึ้นมาที่เลียนแบบมาจากสารที่มีในเซลล์ผิวของเราตามธรรมชาติ นำมาฉีดเติมเต็มบริเวณที่ขาดหายไปในชั้นผิวหนัง และเพิ่มปริมาณเนื้อเยื่อเพื่อทดแทนคอลลาเจนให้ผิวกลับมาเรียบเนียนเท่ากับบริเวณโดยรอบ ทำให้ดูแก้มเต็มและเต่งตึงมากขึ้น

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

  1. การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ สามารถใช้สารไฮยาลูโรนิค แอชิด ฉีดเข้าไปบริเวณแก้มตอบได้เลย
  2. เกิดการแพ้ได้น้อยมาก เพราะเป็นสารที่เลียนแบบสารที่มีอยู่ในเซลล์ผิวของเราตามธรรมชาติ
  3. ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผล ไม่ต้องผ่าตัด
  4. อาจมีรอยเข็มเล็ก ๆ หรือรอยเขียวช้ำได้เล็กน้อย อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปเพียงแค่ภายใน 7 – 14 วัน
  5. หลังฉีด แก้มจะดูเต็มขึ้นทันที เห็นผลเต็มที่ ที่ 2 สัปดาห์เป็นต้นไป
  6. อาจเกิดอาการบวมได้ หลังฉีดจะหายได้เองภายใน 2 – 3 วัน
  7. ผลลัพธ์อาจจะไม่ถาวร สามารถสลายไปได้เองภายใน 1 – 2 ปี ดังนั้นจึงต้องกลับมาฉีดซ้ำอยู่เรื่อย ๆ เพื่อรักษาผลลัพธ์เอาไว้ แต่ข้อดีก็คือฟิลเลอร์สามารถละลายได้หมด 100% ไม่ตกค้างในร่างกาย

การฉีดไขมันหน้าต่างจากการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบอย่างไร การฉีดไขมันหน้าเป็นการฉีดเติมเต็มด้วยไขมันตัวเอง เป็นการย้ายไขมันจากบริเวณที่มีไขมันส่วนเกิน เช่น หน้าท้อง ต้นขา มาเติมเต็มส่วนที่ขาดไป

  1. การฉีดไขมัน โดยการดูดไขมันมากจากบริเวณหน้าท้อง ต้นขา นำเซลล์ไขมันที่ได้ มาคัดแยกเซลล์ไขมันดีไปเติมบริเวณแก้มตอบที่เราต้องการ
  2. ความเสี่ยงในการแพ้ค่อนข้างน้อย ไม่มีสารแปลกปลอมเพราะเป็นไขมันของตัวเอง
  3. ต้องเจ็บตัวเล็กน้อยในการดูดไขมันจากบริเวณอื่นเพื่อนำมาใช้เติมเต็ม และอาจมีรอยแผลบริเวณที่ดูดไขมันออกมาได้
  4. ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นเล็กน้อย
  5. หลังเติมอาจมีการหยุบตัวของไขมัน หรือไขมันหยุบตัวไม่เท่ากันได้ หรือไขมันติดไม่เท่ากันอาจทำให้ผิวขรุขระไม่สม่ำเสมอ
  6. ต้องระมัดระวังอย่าให้เกิดการกระทบกระแทกในที่บริเวณที่เติมไขมันอย่างน้อย 1 เดือน เพราะหากเซลล์เกิดการบอบช้ำได้รับความเสียหาย เซลล์ไขมันอาจตายได้ ทำให้บริเวณที่เราเติมเต็มไขมันไม่ติด
  7. มีอาการบวม ใช้ระยะเวลาในการเห็นผลประมาณ 3 เดือน
  8. กรณีที่เรามีไขมันไม่มากพอสำหรับการนำมาใช้ได้ ก็ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีการเติมไขมันของตนเองบริเวณแก้มตอบได้

การเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ควรงดยา วิตามิน อาหารเสริมบางชนิด เช่น แอสไพริน วิตามินอี เพราะจะไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดแข็งตัวช้า ในระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ อาจเลือดออกและหยุดช้าเสี่ยงต่อการช้ำหลังฉีด

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

  1. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดออกกำลังกายอย่างหนักในวันที่รักษา
  2. อาจมีอาการบวมหรือเขียวช้ำได้ 2 – 3 วัน และรอยเขียวช้ำจะหายได้เองภายใน 7 – 14 วัน
  3. งดนวดหน้า หรือกดแรงๆ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ 2 สัปดาห์
  4. หลีกเลี่ยงแสงแดด และความร้อนต่าง ๆ เช่น การอบไอน้ำ อบซาวน่า
  5. หลัง 24 ชม. สามารถทาแป้งแต่งหน้า ลงรองพื้น หรือทาคอนซีลเลอร์ หรือทาครีมบำรุงผิวหน้าได้ตามปกติ
  6. งดทำเลเซอร์บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ 2 สัปดาห์ เพราะการสัมผัสความร้อนอาจส่งผลต่อฟิลเลอร์ได้
  7. ควรดื่มน้ำมาก ๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะช่วง 3 – 4 วันแรก เพราะฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ น้ำจะเข้าไปเติมเต็มและจับโมเลกุลของฟิลเลอร์ที่ฉีด ส่งผลให้คงสภาพอยู่ได้นานขึ้น

อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยการแก้ไขปัญหาแก้มตอบนั้นสามารถทำได้หลายวิธี เคล็ดลับของความสวยขึ้นอยู่กับวิธีการแก้ไขปัญหาแก้มตอบว่าเราเลือกวิธีไหน เราสามารถเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียแต่ละวิธีได้เลย การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเป็นอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งจะสามารถเห็นผลเปลี่ยนแปลงหลังทำได้ทันที และที่สำคัญคือหากเราเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้อย่างถูกต้องและเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญมีเทคนิคในการฉีดก็จะทำให้การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบออกมาสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ลดความโดดเด่นของโหนกแก้มทำให้แก้มเต็มและเต่งตึงเพิ่มความสดใสของใบหน้า

สุดท้ายนี้หากใครที่มีปัญหาแก้มตอบ ไม่ว่าจะเลือกรักษาด้วยวิธีไหน ก็ควรไปรับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจรักษาให้ถูกวิธี และจะได้รับการรักษาในวิธีที่เหมาะสมกับเรามากที่สุดค่ะ