รู้หรือไม่? ว่าผิวบริเวณรอบดวงตานั้นมีความบอบบางมากที่สุด ถ้าไม่หมั่นบำรุงเป็นประจำล่ะก็… ริ้วรอย ความหมองคล้ำ และถุงใต้ตาก็จะปรากฏขึ้นมาให้เห็นอย่างแน่นอน และยังเป็นสัญญาณเตือนของการมีริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วยค่ะ ดังนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการดูแลผิวรอบดวงตาและวิธีแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ทุกคนได้รู้จักกัน หากพร้อมแล้ว… เตรียมบอกลาใต้ตาคล้ำกันได้เลย!
การดูแลผิวใต้ตาสามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดผิวและการทาครีมบำรุงเป็นประจำ รวมถึงการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำให้กลับมากระจ่างใสและอิ่มน้ำดูสุขภาพดี สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาใต้ตาคล้ำหรือลังเลกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ ลองมาอ่านบทความนี้ไปพร้อมๆ กัน รับรองว่าคุณจะได้เคล็ดลับดีๆ ในการดูแลผิวใต้ตาแน่นอน
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถือเป็นหัตถการความงามที่แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำในการแก้ปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยต่อร่างกาย เนื่องกรดไฮยาลูโรนิกที่ฉีดเข้าไปจะสามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างในร่างกาย
การฉีดฟิลเลอร์ยังเป็นหัตถการความงามที่เรียบง่ายและแทบไม่ก่อให้เกิดผลค้างเคียง โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ ผู้ฉีดจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีว่าผิวใต้ตามีความอิ่มน้ำและกระชับขึ้น การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ปัญหาทั้งริ้วรอยใต้ตา ร่องลึกใต้ตา ถุงใต้ตา ใต้ตาดำคล้ำ ผิวแห้งบริเวณใต้ตาได้ ถือว่าช่วยแก้ปัญหาผิวรอบดวงตาได้อย่างครอบคลุมและครบวงจรนั่นเอง
ทั้งนี้ฟิลเลอร์มีข้อจำกัดคือ สามารถอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือนและจะค่อยๆ สลายไปเอง แต่ผู้ที่ฉีดก็สามารถกลับมาฉีดเติมฟิลเลอร์ใหม่ได้เรื่อยๆ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายและยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?
เนื่องจากในแต่ละวันเราใช้สายตาในการเพ่งมองสิ่งต่างๆ รอบตัว และบางคนอาจติดนิสัยขยี้ตาหรือกะพริบตาบ่อยๆ จึงทำให้ผิวรอบดวงตาทำงานหนักตลอดทั้งวันและสูญเสียความชุ่มชื้นอย่างมาก ดังนั้น ผิวบริเวณรอบตัวตาจึงต้องการการบำรุงและดูแลอย่างเหมาะสม
มาพบกับ ‘วิธีการดูแลผิวใต้ดวงตา’ กันได้เลย!
1.หมั่นเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวรอบดวงตา
ผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะบริเวณใต้ตามีความบอบบางเป็นพิเศษ การเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหากผิวเริ่มสูญเสียน้ำ จะทำให้โครงสร้างในชั้นผิวเริ่มหดตัว ไม่เต่งตึง จนเกิดเป็นริ้วรอยและความหมองคล้ำได้ ดังนั้น เราจึงต้องเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวรอบดวงตา ด้วยการทามอยส์เจอไรเซอร์อย่างอายครีมเป็นประจำเช้าเย็น โดยแต้มอายครีมให้รอบดวงตา จากนั้นใช้นิ้วนางค่อยๆ นวดเนื้อครีมให้ซึมลงสู่ผิวอย่างเบามือ
2.เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวรอบดวงตาที่มีประสิทธิภาพ
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวรอบดวงตาก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน แนะนำให้เลือกใช้อายครีมที่ส่วนผสมของการบำรุงผิวได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการชะลอริ้วรอยและลดความหมองคล้ำของผิวบริเวณใต้ตา
- ริ้วรอยใต้ตา: แนะนำให้ใช้อายครีมที่เน้นส่วนผสมของสารความชุ่มชื้นและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น เรตินอยด์ เรตินอล เปปไทด์
- รอยคล้ำใต้ตา: แนะนำให้ใช้อายครีมที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน เพื่อลดปัญหาความหมองคล้ำ เช่น อาร์บูติน วิตามินซี สารสกัดจากถั่วเหลือง ไนอะซินาไมด์หรือวิตามิน บี3
3.ทำความสะอาดผิวรอบดวงตาอย่างล้ำลึกและนุ่มนวล
การลบเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดผิวรอบดวงตาจำเป็นต้องทำอย่างเบามือและนุ่มนวล โดยใช้แผ่นสำลีที่ผสมอายรีมูฟเวอร์ (Eye Remover) กดเบาๆ รอบดวงตา และเช็ดออกเบาไปในทางเดียวกัน
4.ปกป้องผิวรอบดวงตาด้วยการทาครีมกันแดด
สิ่งที่ผู้คนมักจะละเลยในการดูแลผิวรอบดวงตาคือ ‘การทาครีมกันแดด’ นั่นเอง การที่ผิวของเราเจอกับแสงยูวีโดยไม่มีเกราะป้องกัน จะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้อย่างมากที่สุดและยังทำให้ผิวหมองคล้ำได้ง่ายมาก เพราะฉะนั้น หากไม่อยากให้ริ้วรอยใต้ตาปรากฏขึ้น อย่าลืมทาครีมกันแดดรอบดวงตาโดยทาบนเปลือกตาและผิวใต้ตาอย่างเบามือเป็นประจำทุกวัน
5.ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำ พร้อมแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือ การฉีดไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและความอ่อนเยาว์ให้กับผิว และยังกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง การฉีดฟิลเลอร์จะทำให้ผิวบริเวณใต้ตากลับมาอวบอิ่ม ดูเปล่งปลั่งและเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ
สรุป ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับดีๆ ที่เรานำมาฝากทุกคนกันในวันนี้ ดวงตานั้นถือเป็นส่วนสำคัญของใบหน้า เพราะฉะนั้นเราต้องหมั่นดูแลและบำรุงผิวรอบดวงตาเป็นประจำให้ดวงตาคงความสดใส อ่อนเยาว์ไร้ริ้วรอย และดูสุขภาพดีสุดๆ และหากใครที่มีปัฯหาใต้ตาหมองคล้ำ อยากจะรีบรักษาอย่างเร่งด่วน แนะนำการฉีดฟิลเลอร์ตา ที่สามารถเข้าไปใช้บริการตามคลินิกเสริมความงามต่างๆ แต่ต้องศึกษาให้แน่ใจด้วยนะว่าสถานที่ที่จะเข้าไปใช้บริการมีการใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรอง เพื่อผลลัพธ์และความปลอดภัยของดวงตาเราค่ะ