“How to ลบรอยสักอย่างไร ให้ได้ผิวสวยคืนมา”

ลบรอยสัก

เมื่อความสวยคือศิลปะก็ไม่แปลกที่จะมีกลุ่มคนที่ชอบลวดลายบนผิวบ้างก็ชอบเพลนๆสีเดียวบ้างก็ชอบหลากหลายสีสันเติมแต่งลงบนผิวเป็นจิตกรรมบนผิวหนังที่ทุกคนรู้จักในชื่อของคำว่ารอยสัก พอได้รอยสักมาช่วงแรกๆก็พอใจกับจิตกรรมที่ชอบพอผ่านไปช่วงหนึ่งของชีวิตก็รู้สึกไม่ชอบไม่อยากจะมีแล้วเป็นธรรมดาค่ะมีช่วงที่อยากและไม่อยากในชีวิตจึงทำให้คนเราคิดค้นหาวิธีการหลากหลายเพื่อลบลวดลายที่มีบนผิวจึงเป็นที่มาของการลบรอยสัก มาดูกันค่ะว่าจะยุ่งยากแค่ไหน การสัก กับการลบรอยสักวิธีไหนจะทำยากและง่ายกว่ากันและมีวิธีการอย่างไร นวัตกรรมการลบรอยสักตอนนี้ไปถึงไหนกันแล้วบ้าง

รอยสักและการลบรอยสัก

ในอดีตการสักคนโบราณเขาใช้การสักด้วยน้ำมันบนผิวเพื่อลงอาคมไม่มีลวดลายบนผิวต่อมาก็เพิ่มลวดลายโดยใช้หมึกสักผ่านเข็มลงไปบนผิวแทนน้ำมันส่วนใหญ่จะใช้สีดำหรือน้ำตาลเป็นงานทำมือจนกระทั่งปัจจุบันก็ใช้หมึกสักหลากหลายสีสันแต่งแต้มเป็นลวดลายสีสันบนผิวหนังเป็นงานศิลปะบนผืนผิวหนังแทนผืนผ้าใบและมีทั้งงานสักทำมือและงานสักด้วยเครื่องมือ จึงทำให้การลบรอยสักมีความยากหรือง่ายนั้นขึ้นกับวิธีการที่ใช้ในการสัก ระดับความลึกที่วางเม็ดสีบนผิวก็ต่างกัน การสักด้วยมือนั้นขึ้นกับน้ำหนักมือของช่างสักการควบคุมความลึกขึ้นกับความสม่ำเสมอของแต่ละบุคคลการสักด้วยเครื่องมือสามารถควบคุมความลึกได้การลบก็ยากเช่นกันเพราะเม็ดสีเข้มข้นกระจุกตัวหนาแน่นจำนวนครั้งที่ลบก็ยิ่งเพิ่มตาม

การลบรอยสัก ในระยะแรกๆนั้นจึงมีตั้งแต่การใช้น้ำยาสักทับลงไปบนสีที่เคยสักไว้เพื่อให้สีจางลง หรือ สักสีและลายใหม่ทับไปบนรอยสักเดิมที่มีซึ่งวิธีการนี้จะยิ่งทำให้การลบรอยสักยากขึ้นอีกหลายเท่าเพราะเป็นการผสมสีย้ำจุดเดิมๆเข้าไปอีกปัจจุบันวิธีการที่นิยมและได้ผลดีในการลบรอยสักที่ยังคงสภาพผิวเดิมไม่ทำให้ผิวเดิมเสียหายเยอะ ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และทิ้งรอยแผลเป็น ก็คือการทำเลเซอร์ซึ่งก็มีเครื่องมือหลายรุ่นที่ต้องเลือกใช้ เช่นเครื่องมือรุ่นเก่าก็อาจจะลบรอยสักได้แต่ลบได้ไม่ทุกเฉดสี คงค้างเป็นพวกสีอ่อนๆและสีพาสเทลที่ยังลบไม่ออกเพราะพลังงานอาจจะไม่ละเอียดเพียงพอ ส่วนเครื่องเลเซอร์รุ่นใหม่ๆก็จะสามารถลบรอยสักได้ทุกเฉดสีรวมทั้งสีพาสเทลที่ยากยิ่งต่อการลบรอยสักเพราะความละเอียดของพลังงานถูกพัฒนามากกว่าเดิมอีกระดับ

เลเซอร์ลยรอยสัก

ลบรอยสัก ทำเพียงครั้งเดียวจะหายเลยหรือไม่ ?

เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับคนที่ต้องการจะลบรอยสักการลบรอยสักนั้นต้องใช้เวลาในการลบหลายครั้งค่ะขึ้นกับปัจจัยดังนี้ ถ้าเป็นสีที่ลบง่ายอาจจะใช้เวลาการลบรอยสักจำนวนน้อยครั้งเช่น สีดำ น้ำตาล แต่ถ้าเป็นสีรุ้ง7สีมาเลยล่ะคะงานนี้จะทำได้มั้ย แล้วสีไหนลบได้ก่อนหลังล่ะคะงานนี้มาดูกันค่ะถ้าสีที่ต้องการลบผสมกันมาหลากหลายในการลบรอยสักแต่ละรอบรอยสักจะค่อยๆจางลงในการลบรอยสักในแต่ละรอบของการลบสีที่จะหายไปได้ก่อนคือ สีดำ สีน้ำตาล สีน้ำเงิน สีแดง ส่วนสีส้ม สีเหลือง สีฟ้า และสีพาสเทลตามลำดับสีที่อ่อนมากๆก็จะลบได้ช้าที่สุด แล้วค่อยมาดูว่าปลายทางเหลือสีอะไรส่วนใหญ่สีที่เหลือๆจะเป็นสีอ่อนๆเพราะสีเข้มจะถูกลบออกไปตั้งแต่การทำในครั้งต้นๆ

หลังลบรอยสักจะได้สีผิวแบบเดิมๆเลยมั้ยน้า…

ถ้าสีรอยสักที่ต้องการลบมีเพียงสีเดียวและความลึกของการสักสีที่ผิวบางเบาน้ำหนักลงอย่างสม่ำเสมอโอกาสที่หลังลบรอยสักแล้วได้ผิวสวยๆไร้มลทินกลับมาก็สูงค่ะ แต่ถ้าเกิดว่ามีการสักหลายลายทับกันมากกว่า1ครั้งบนรอยสักอันเดิมตำแหน่งเดิมการกลับมาของผิวที่ไร้ที่ตินั้นออกจะยากสักหน่อยสำหรับผู้ที่คาดหวังสูงๆถึงแม้จะเป็นการลบรอยสักด้วยเครื่องมือรุ่นใหม่ๆและด้วยแพทย์ที่มีความชำนาญแล้วก็ตาม

ต้องเตรียมตัวอย่างไร…นานแค่ไหนถึงทำซ้ำได้…แต่ละครั้งทำนานแค่ไหน…

การเตรียมตัวก่อนการทำลบรอยสักไม่มีอะไรมากค่ะอย่าพึ่งไปโดนแดดจัดๆมาก่อนทำเพราะเม็ดสีแต่ละสีดูดกลืนความร้อนต่างกันมีผลกับพลังงานความร้อนที่แพทย์จะใช้ในการลบ ผิวบริเวณที่จะลบรอยสักต้องไม่มีแผลเปิด ระยะห่างในการลบรอยสักแต่ละครั้งประมาณ6-8สัปดาห์ ทำต่อเนื่อง5-10ครั้งขึ้นกับเครื่องมือที่แพทย์เลือกใช้ แปะยาชาก่อนทำค่อนข้างจำเป็นเพราะตอนทำอาจจะรู้สึกเจ็บได้บ้างในบริเวณที่มีเม็ดสีเข้มๆ

เมื่อการลบรอยสักทำได้ค่อนข้างยากและโอกาสการกลับมาของผิวเดิมก็ไม่ง่ายดังนั้นก่อนตัดสินใจจะสักอะไรสักอย่างบนผิว ตั้งแต่ใบหน้าจนถึงเรือนร่างก็ควรเลือกสีที่ลบง่ายไว้เผื่อว่าอนาคตเมื่อสักวันเราไม่ต้องการมัน ควรจะเลือกสักด้วยเครื่องมือที่มีมาตรฐานเพราะความลึกของสีสม่ำเสมอกว่าการสักด้วยมือ คนที่มีรอยสักที่คิดว่าจะลบได้ยากๆก็มีความหวังว่าความทรงจำดีๆหรือไม่ดีนั้นจะถูกเก็บบันทึกหรือลบไปตามรอยสักที่มีและแม้ว่าการลบรอยสักจะยังดูเหมือนจะแก้ไขได้ยากแต่ปัจจุบันนวัตกรรมก็ได้ถูกพัฒนาให้ล้ำหน้ามากขึ้น สถาบันที่น่าเชื่อถือและประสบการณ์ในการลบรอยสักเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญก่อนการตัดสินใจ